Friday, January 8, 2010

การจัดตู้เสื้อผ้า (Wardrobe)


















เปิดตู้เสื้อผ้าทีนึง อะไรต่อมิอะไรร่วงลงมากองกันหมดเลย หรือไม่ก็หาเสื้อตัวที่เคยไส่ไปเที่ยวทะเลเมื่อต้นปีไม่เจอไม่รู้ว่าไปแอบอยู่ตรงส่วนไหนของตู้ก็ไม่รู้ ตู้เสื้อผ้ามันรกจริงๆ มาลองจัดตู้เสื้อผ้าใหม่ให้น่ามองและหาของใช้ได้ง่ายขึ้นกันดีกว่าแถมเป็นระเบียบเรียบร้อยอีกด้วย

1. ควรเอาเสื้อผ้าทั้งหมดมาจัดแยกกลุ่ม แยกประเภท เช่น กางเกงขายาว, กางเกงขาสั้น, เสื้อแขนยาว, เสื้อแขนสั้น, กระโปรง

2. จัดเก็บโดยการแยกแขวนตามเฉดสี แยกออกระหว่างสีพื้นและลวดลาย โดยไล่ไปตามน้ำหนักสีจากสีอ่อนไปเข้ม

4. ควรแยกเสื้อยืด ชุดนอน พับเก็บไว้ ในลิ้นชักหรือชั้นวาง เพื่อเป็นการประหยัดเนื้อที่แขวนในตู้เสื้อผ้า

5. แยกเสื้อผ้าที่มีน้ำหนักมากกับน้ำหนักเบา เพื่อแยกแขวน เสื้อผ้าน้ำหนักเบาแขวนราวบน เสื้อน้ำหนักมากแขวนราวล่าง

6. เสื้อผ้าที่มีน้ำหนัก เช่น เสื้อสูท เดรสผ้าถัก ให้นำไปแขวนกับไม้แขวนแบบหนา เพื่อรักษารูปทรง

7. ของใช้ชิ้นเล็กสำหรับตกแต่ง เช่น เนคไท ผ้าพันคอ ถุงเท้า หรือเข็มขัด ให้เก็บไว้ในกล่องหรือตะกร้า ถ้าเป็นกล่องที่แบ่งช่องเล็กๆ เก็บเป็นชิ้นๆ ก็จะหยิบใช้งานง่าย

8. ช่องเปิดด้านบนสุดของตู้ ให้เก็บของชิ้นใหญ่ ที่หยิบง่าย ไม่ใช้บ่อย เช่น ผ้าปู ปลอกหมอน หมอน หรือกระเป๋า ส่วนล่างสุดเก็บรองเท้าที่ทำความสะอาดดีแล้ว

9. หาตะกร้าซักใบ เพื่อใช้เก็บชุดชั้นใน หรือเสื้อผ้าใช้แล้วที่รอการซัก

10. ให้ช่างมาติดดวงไฟในตู้ เพื่อสะดวกในการสำรวจหาเสื้อผ้า กรณีเป็นไฟแบบเปิดปิดพร้อมการเปิดตู้ก็จะช่วย ประหยัดไฟ แต่ต้องเช็คให้มั่นใจว่าได้ปิดประตูตู้ได้สนิท และไฟดับแล้ว เพราะถ้ายังไฟเปิดตลอดเวลาอาจทำให้เกิดความร้อนจนลุกไหม้เป็นไฟได้

11. หมั่นสำรวจตู้เสื้อผ้าทุกหกเดือน เพื่อรื้อสิ่งของที่ไม่ได้ใช้แล้วไปบริจาค และจัดเก็บแต่ละส่วนให้เป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่เสมอ

12. ปิดประตูตู้ทุกครั้งหลังจากใช้งาน เพื่อป้องกันผงฝุ่นและแสงแดดไปทำลายผ้า และควรดูดฝุ่นในตู้และบนชั้น เดือนละ 1-2 ครั้ง

13. ใส่อุปกรณ์ดักจับความชื้นหรือถุงหอมในตู้ และเพิ่มเครื่องหอมเช่น การบูร บุหงารำไป หรือก้อนหอมดับกลิ่น แก้ปัญหากลิ่นอับและเพิ่มความหอมให้เสื้อผ้า

0 comments:

บทความที่เกี่ยวข้อง