Wednesday, November 25, 2009

วิธีลดความร้อนให้กับบ้าน



วิธีการจัดบ้านให้อยู่สบายในทุกหน้าร้อน
1. ให้โครงสร้างบ้านกำหนด ถ้ามีบ้านอยู่แล้วคงแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว นอกจากจะทบรื้อซ่อมไปเป็นจุดๆ แต่สำหรับผู้ที่กำลังซื้อหาหรือสร้างบ้านใหม่ ให้คิดถึงบ้านเก่าๆ สมัยบรรพบุรุษของเราสร้างไว้ได้เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราเช่น มีช่องเปิดมากๆ สำหรับรับลมรับแสง แล้วเราค่อยหาต้นไม้ปลูกโดยรอบอีกทีเพื่อกรองแสงกรองฝุ่น หลังคาควรให้สูงแหลมเพราะกระจายความร้อนได้ดี การทำชายคายาวจะช่วยบังแดดและกันฝนสาดได้ดี การทำหน้าต่างเตี้ยจะช่วยให้ลมพัดผ่านได้ดีกว่าหน้าต่างสูง
2. เลือกวัสดุลดความร้อน
พื้น หินอ่อน กระเบื้อง น่าจะเย็นดี แต่ไม่ดีแน่ถ้าเป็นหน้าฝนหรือหน้าหนาว พื้นไม้ จะให้ความรู้สึกดีกว่า แต่ราคาแพง ทางเลือกที่ดีที่สุดคือ ปาร์เกต์ เพราะมีหลายเกรดหลายราคาให้เลือก
ฉนวนกันความร้อน ควรเลือกใช้มากๆ ใช้บุใต้หลังคาเหนือฝ้าเพดาน จะช่วยดักความร้อนที่ทะลุจากหลังคาสู่ภายในบ้านให้เป็นไปได้ยากขึ้น
มวลความร้อนใหญ่ๆ เช่น ผนังคอนกรีต ลานคอนกรีตในสนามและทางเดินในสวน ควรหลีกเลี่ยงการใช้มากที่สุด การปล่อยเป็นพื้นสนามช่วยลดอุณหภูมิพื้นได้ดีกว่ามีคอนกรีตปูนรองรับ
กระจก วัสดุที่ให้ความรู้สึกของห้องที่กว้าง หรูหรา ควรเลือกกระจกโพลทแบบตัดแสง ซึ่งจะช่วยลดปริมาณแสงและความร้อนที่ผ่านกระจก หรอืแบบสะท้อนแสง Reflective Grass ที่ช่วยสะท้อนแสงและความร้อนไม่ให้เข้าภายในอาคาร
3. ชนิดของเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะ
ทั้งขนาดและชนิดของวัสดุ ถ้ามีขนาดใหญ่ สูง หนาและทึบตัน จะยิ่งทำให้รู้สึกอึดอัด ควรเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นที่บางดีไซด์โปร่งเบา วัสดุหนังจะทำให้รู้สึกอบอุ่นในบรรยากาศเย็น แต่ไม่สบายตัวกับสภาพอากาศร้อน เช่นเดียวเฟอร์นิเจอร์ผ้าที่ให้ความรู้สึกสบายตา ซับเหงื่อได้ดี แต่เหนียวตัวเหนอะหนะถ้าอากาศร้อน ควรเลือกใช้วัสดุธรรมชาติที่ผสมผสานเนื้อผ้าแต่เพียงน้อยจะทำให้รู้สึกสบายตัวมากที่สุด
4. การจัดวางข้าวของให้เป็น
ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็จะเป็นเรื่องใหญ่ได้ถ้าไม่ใช้ความละเอียด เช่นการวางตู้สูงปิดบังช่องหน้าต่าง จะทำให้ห้องทึบอึดอัดลมไม่ผ่าน ควรจัดข้าวของให้มีน้อยชิ้นให้เป็นระเบียบ ปล่อยพื้นที่ว่างเยอะๆ อากาศจะได้ถ่ายเทได้สะดวก
5. ลองเทคนิคดีๆ ช่วย
- ควรทำแหล่งน้ำให้บ้าน ควรเป็นแหล่งน้ำเล็กๆ ก็สามารถช่วยลดความร้อนได้ แต่ถ้าใหญ่เกิน แล้วไม่มีไม้น้ำปกคลุม ก็จะกลายเป็นแหล่งสะสมความร้อนแทน
- ติดสปริงเกอร์บนหลังคาบ้าน จะช่วยระบายความร้อนออกไป แต่อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง และเปลืองค่าไฟ
- ปลูกต้นไม้ใหญ่ เพื่อให้ร่มเงา ดูดรับความร้อนแทนบ้านให้ประโยชน์สองทางนอกเหนือจากการสร้างบรรยากาศร่มเย็นในสวน

Monday, November 23, 2009

วิธีขจัดคราบสกปรกในห้องน้ำ


ความสะอาดห้องน้ำเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าห้องน้ำกลายเป็นที่ที่สะสมสิ่งสกปรกก็จะเป็นที่รังเกียจของทุกคน และอาจเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคต่างๆได้ เราควรหมั่นทำความสะอาดอยู่ตลอดเวลา สำหรับวันนี้เราก็มีวิธีขจัดคราบสกปรกต่างๆ ในห้องน้ำด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเฉพาะด้าน เพื่อขจัดคราบสบู่ คราบหินปูน คราบสนิม หรือคราบราดำที่ฝังแน่นตามร่องยาแนวกระเบื้องให้หลุดออกไป

การขจัดคราบราดำ
กรณีที่เกิดราดำที่พื้นและผนังห้องน้ำ ให้ใช้สเปรย์น้ำยาสูตรฆ่าเชื้อราฉีดลงที่คราบดำตามร่องยาแนวกระเบื้องหรือบริเวณที่มีคราบสกปรก โดยห่างจากพื้นหรือผนังประมาณ 3-5 เซนติเมตร ทิ้งไว้สักครู่ แล้วใช้แปรงขัด จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด คราบเชื้อราและคราบสกปรกก็จะหลุดออก นอกจากนี้สเปรย์ฆ่าเชื้อราในห้องน้ำยังช่วยขจัดคราบเชื้อราและคราบสกปรกต่างๆที่สะสมในท่อน้ำทิ้งได้อีกด้วย

การขจัดคราบน้ำ คราบสบู่ และคราบไขมัน
- บริเวณส่วนแห้งในห้องน้ำมักมีคราบน้ำที่เกิดจากการใช้ห้องหรือตู้อาบน้ำ และคราบสบู่จากการใช้อ่างล้างหน้า เบื้องต้นให้หาผ้าเช็ดเท้าหรือใยสังเคราะห์มารองพื้นบริเวณหน้าห้องอาบน้ำเพื่อแก้ปัญหาเรื่องคราบน้ำก่อน ส่วนการขจัดคราบสบู่และคราบไขมันจากการชำระล้างทั้งหลาย ให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดสุขภัณฑ์ โดยเลือกสูตรที่ไม่มีส่วนผสมของผงขัดและสารที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรงนัก แล้วเทน้ำยาเล็กน้อยบนแผ่นฟองน้ำ จากนั้นนำไปเช็ดถูในบริเวณที่ต้องการ
- สำหรับห้องอาบน้ำที่กั้นด้วยแผ่นกระจก อะคริลิก หรือพีวีซีที่ดูหมองๆ รวมถึงบริเวณหน้ากระจกที่ไม่ค่อยสดใส ให้ใช้แอลกอฮอล์ผสมน้ำหรือน้ำยาเช็ดกระจกที่มีส่วนผสมของแอมโมเนียมไฮดรอกไซด์ มาขจัดฝุ่นละออง คราบมัน และความขุ่นมัว โดยฉีดพ่นบนพื้นผิวที่สกปรก ทิ้งไว้ประมาณ1-2 นาที แล้วเช็ดออกด้วยผ้าแห้งสะอาด หรือใช้เครื่องมือเช็ดกระจกแบบเดียวกับที่เด็กปั๊มใช้เช็ดกระจกรถยนต์ก็ได้ โดยเช็ดถูไปทางเดียวกัน เพื่อจะได้ไม่ทิ้งรอยคราบหลังการใช้งาน

การขจัดคราบหินปูนและคราบสนิม
- คราบหินปูนที่เกาะบริเวณขอบหรือมุมกระเบื้อง ให้ใช้เกรียงหรือโลหะแข็งขูด หากคราบหินปูนกิน บริเวณกว้างและขูดออกยาก ให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของโซดาไฟหรือคลอรีน เพื่อช่วยละลายคราบต่างๆ แต่เวลาใช้งานต้องระวังเพราะมีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง อาจทำให้ปูนยาแนวแตกและกะเทาะออกมาได้ ดังนั้นควรทดลองใช้ในพื้นที่เล็กๆก่อน
- สำหรับคราบสนิม คราบตะกรัน หรือคราบปัสสาวะในโถสุขภัณฑ์ ให้ผสมน้ำยาขจัดคราบชนิดเข้มข้นกับน้ำสะอาดตามอัตราส่วนที่ระบุไว้ข้างฉลาก จากนั้นใช้แผ่นฟองน้ำจุ่มในน้ำยาให้ชุ่มแล้วนำไปเช็ดถูบริเวณพื้นผิวที่ต้องการ ทิ้งไว้ราว 2-3 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด พื้นผิวก็จะกลับมาสวยงามดังเดิม นอกจากนี้น้ำยาขจัดคราบดังกล่าวยังใช้ได้กับวัสดุประเภทโครเมียม สเตนเลส เพื่อคืนความเงางามให้กับสุขภัณฑ์ต่างๆ

ข้อควรระวัง
* น้ำยาบางยี่ห้อเขียนไว้ว่าห้ามใช้กับพื้นหรือผนังหินอ่อน หินปูน
* อย่าให้น้ำยาเข้าตา เพราะอาจทำให้ตาบอดได้
* น้ำยาที่มีส่วนผสมของคลอรีนมีฤทธิ์กัดสีเสื้อผ้า
* ระหว่างการทำความสะอาด ควรทำให้อากาศภายในห้องมีการระบายบ้าง เพราะการสูดดมน้ำยามากๆอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

Saturday, November 21, 2009

การแต่งห้องให้ดูกว้างขึ้น


สำหรับใครที่อยู่บ้านลอยฟ้าหรือที่เรียกกันว่าคอนโดหรือแม้แต่บ้านหลังน้อย มีพื้นที่ห้องจำกัด แต่อยากจัดและตกแต่งห้องให้ดูกว้างขึ้น มองไปทางไหนก็สบายตา ไม่รู้สึกอึดอัด วันนี้เรามีเคล็ดลับมาบอก ลองนำไปใช้ตกแต่งห้องของท่านดูได้ รับรองว่าห้องจะได้กว้างขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย

- ควรเลี่ยงการวางเฟอร์นิเจอร์ (furniture)ขวางกั้นบริเวณทางเดิน เพื่อให้ทางเดินดูต่อเนื่อง

- การจัดวางตู้ และเฟอร์นิเจอร์ ควรจะจัดให้ชิดติดผนังมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

- การตกแต่งภายใน ควรออกแบบโดยใช้โทนสีอ่อน และวอลล์เปเปอร์ที่ดูเรียบ ๆ ไม่จำเป็นต้องรายละเอียดมากเกินไป

- การเปิดผนังระหว่างห้องน้ำ และห้องนอนด้วยการใช้บานเฟี้ยม หรือบานกระจกขุ่น ก็จะช่วยให้ห้องน้ำ (bathroom)ดูกว้าง และโล่งขึ้น โดยเฉพาะห้องน้ำที่ไม่ได้ติดหน้าต่าง จะช่วยนำแสงธรรมชาติเข้ามาสู่ห้องน้ำได้

- ควรใช้ม่าน(curtain) หรือมู่ลี่สีอ่อนๆ บริเวณกระจก เพื่อให้สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติ และมองเห็นวิวภายนอกได้เต็มที่

- การเลือกเฟอร์นิเจอร์ ควรให้มีสัดส่วนพอดีกับพื้นที่ ระวังอย่าให้มีขนาดใหญ่หรือสูงเกินไป จะทำให้ห้องดูอึดอัด และคับแคบ

- ควรเลือกวัสดุและเฟอร์นิเจอร์โทนสีอ่อน เพราะให้ความรู้สึกของพื้นที่กว้างขวางกว่าสีเข้ม นอกจากนี้ยังช่วยสะท้อน แสงธรรมชาติที่เข้ามาจากทางหน้าต่างได้ในปริมาณที่มาก และลึกเข้ามายังพื้นที่ส่วนที่อยู่ห่างจากหน้าต่างได้ดีอีกด้วย

เฟอร์นิเจอร์บุผ้า











หลายคนชอบเฟอร์นิเจอร์ที่บุด้วยผ้า เพราะว่าทำให้รู้สึกสบายตา การซับเหงื่อต่างๆก็มีประสิทธิภาพ แต่ก็จะต้องพึงระวัง เฟอร์นิเจอร์ที่ทำมาจากผ้าโดยมากจะสบปัญหาในด้านการทำความสะอาดเพราะฝุ่นละออง และคราบสกปรกต่างๆ จะติดที่เนื้อผ้าได้ง่าย ดังนั้นการเลือกใช้จึงจำเป็นต้องคำนึงถึงสถานที่และความเหมาะสมด้วย โดยมากเฟอร์นิเจอร์หุ้มผ้าจะเป็นโซฟา เก้าอี้ และที่นอน เพื่อให้ความนุ่มนวลเวลาใช้งาน อีกทั้งยังมี ลวดลายสวยงามและเลือกได้หลายแบบอีกด้วย การที่มีฝุ่นเกาะที่เฟอร์นิเจอร์ผ้าจะทำให้แลดูสกปรก และเก่าง่าย หากท่านมีความจำเป็นจะต้องใช้เฟอร์นิเจอร์บุผ้าจริงๆ มีอีกข้อที่ท่านจะต้องคำนึง คือต้องศึกษาพฤติกรรมของตัวท่านเองก่อนว่าเป็นอย่างไร กำหนดจุดที่จะใช้สอย เฟอร์นิเจอร์บุผ้าให้ดี มิเช่นนั้นท่านอาจจะมีความสุขสบายตาสบายใจกับ เฟอร์นิเจอร์บุผ้าของท่านได้ไม่นานเลย แต่อย่างไรก็ตามเราก็มีวิธีแก้ไขที่พอจะช่วยท่านได้บ้าง

วิธีแก้ไข
คือต้องหมั่นดูดฝุ่น ปัดฝุ่นเป็นประจำโดยการใช้แปรงกลมเล็กที่สามารถปัดถึงใน ซอกของเฟอร์นิเจอร์ได้ ถ้ามีน้ำหกลงบนเฟอร์นิเจอร์ผ้าให้คราบออกมาให้ได้มากที่สุด หลังจากนั้นใช้สบู่อ่อนๆ ค่อยๆทาแล้วใช้ผ้าซับสบู่ออก ใช้ดรายเป่าผมเป่าให้แห้งเพื่อไม่ให้เหลือคราบด่างไว้การทำความสะอาดผ้าหุ้ม เฟอร์นิเจอร์นี้จะไม่สามารถทำความสะอาดได้อย่างหมดจด ฉะนั้นควรมีการทำความสะอาดโดยช่างผู้เชี่ยว ชาญอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้จะฉีดละอองแชมพูเพื่อย่อยคราบสกปรกต่างๆ ออกจากผ้าแล้ว จึงฉีดละอองน้ำแล้วดูดคราบสกปรกออกโดยทันที